ส่วนใน ปฐมกาล 25 กล่าวถึงเหตุการณ์ เอซาวขายสิทธิบุตรหัวปีให้แก่ยาโคบ โดยยอมแลกกับถั่วแดงต้ม ทั้งสองคนต่างก็เป็นลูกของอิสอัค
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากกรณีที่หัวหน้าคนใช้หาภรรยาให้ลูกชายของนาย ก็คือ
1. ก่อนการเจรจาต่อรอง ต้องรู้ก่อนว่า เราต้องการ และไม่ต้องการ อะไร
- อับราฮัม กำหนดชัดเจนว่า ต้องการอะไร และไม่ต้องการอะไร
2. จงมั่นใจในพระสัญญาของพระเจ้า และวางใจพระเจ้าว่า
กำลังนำชีวิตของเราให้ประสบความสำเร็จ
3. ต้องรู้พฤติกรรมและความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย/คู่เจรจา
ถ้าไม่รู้ จงเริ่มต้นที่ไหนซักแห่ง ซึ่งน่าจะมีคนที่เราต้องการอยู่
- บ่อน้ำในเวลาเย็น คือ ที่รวมของผู้หญิงขยันในยุคสมัยนั้น
- แหวนและเครื่องประดับ ตอบแทน น้ำดื่ม ซึ่ง เรเบคา ตักมาให้
5. มุ่งหาคนที่มีอำนาจตัดสินใจ และตรวจความสนใจ
- ถามหาบิดา และถามหาที่นอน
6. จงแสดงความน่าเชื่อถือให้คู่เจรจาเห็น
- พ่อของเรเบคา ได้เห็นแหวน เห็นกำไร ที่ลูกสาวได้รับ ก็รีบวิ่งออกมาต้อนรับ
7. เข้าประเด็น อย่าอ้อมค้อม
- ขอคุยธุระก่อนเลย ถ้าผ่อนคลายก่อน อาจเสียงาน
- ถ้าไม่ใช่ จะได้รีบไป
8. จงเป็นนักเล่าเรื่อง จูงใจเขาด้วยเรื่องที่เป็น value และ needs/wants
สิ่งที่อีกฝ่ายให้ความสำคัญ/ต้องการ
เราต้องชนะใจทั้งคนทำงานและคนที่มีอำนาจตัดสินใจ
- พระเจ้าเรียกอับราฮัมให้ออกไป
- พระเจ้าอวยพรให้ร่ำรวย มีอูฐ แพะ แกะ ลา ข้าทาสบริวาร (เล่าซะเห็นภาพ)
- แล้วทั้งหมดนี้จะยกให้ลูกชายเพียงคนเดียว
- และฉันจะมาขอลูกสาวเธอให้ลูกชายเจ้านายฉัน (หมัดน้อก!)
9. เปิดทางปฏิเสธให้คู่เจรจา รักษาความสัมพันธ์ที่ดีแก่กัน
อาจจบด้วยงานเลี้ยงฉลองดีล หรืองานเลี้ยงฉลองความสัมพันธ์
- บอกฉันมา ว่าคิดอย่างไร
- ถ้าไม่โอเค ฉันจะไปต่อ ไม่ว่ากัน
10. เมื่อปิดดีลแล้ว ไม่มีการต่อรอง ปิดโอกาสการเปลี่ยนใจ
โดยให้อ้างเหตุผลที่เกี่ยวกับ value ของเขา
- จะมาขอให้ลูกสาวอยู่ก่อน ไม่ได้
- ตกลงกันแล้ว ต้องมีผลทันที
เพิ่มเติมจากกรณีเอซาว-ยาโคบ ก็คือ
- การเจรจาไม่ควรทำในช่วงเวลาที่เราไม่พร้อม (กลับกัน ควรเจรจาในช่วงเวลาที่เราได้เปรียบ)
- - คนที่มีความรู้มากกว่า มักได้เปรียบในการเจรจา (ยาโคบรู้ความสำคัญของสิทธิบุตรหัวปี เอซาวไม่รู้)
- - การแลกเปลี่ยน / ผลของการเจรจา เกิดขึ้น หลังจากมี สัญญา ที่แข็งแรงแล้วเท่านั้น
นอกจากนั้นก็ยังได้ข้อคิดเรื่อง การมอบหมายงานด้วย หากเราต้องการให้งานสำเร็จ เราต้อง
1. มอบหมายงานให้คนที่ไว้ใจได้ เป็นคนดี สัตย์ซื่อ
2. มอบหมายงานให้คนที่วางใจได้ เป็นคนฉลาด เก่ง เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์
2. มอบหมายงานให้คนที่วางใจได้ เป็นคนฉลาด เก่ง เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์
ซึ่งในยุคสมัยนี้ ดูจะหาได้ยากเหลือเกิน คนที่ทั้ง ไว้ใจ และ วางใจ ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น